ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันศุกร์ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนที่ Fitch จะประกาศการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 554.84 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,825.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,698.15 จุด ลดลง 5.50 จุด หรือ -0.02% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,283.29 จุด ลดลง 14.29 จุด หรือ -0.15%
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวลงมากกว่า 1% โดยหุ้น Novartis ร่วง 2.8% หลัง Goldman Sachs ปรับลดคำแนะนำลงทุน โดยให้เหตุผลเรื่องการแข่งขันจากยาสามัญที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Zealand Pharma ร่วงตาม 4.1%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยปรับขึ้น 0.7% ในวันศุกร์ และกลายเป็นกลุ่มที่ทำผลงานดีที่สุดในสัปดาห์นี้ โดยพุ่งขึ้น 6% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน สืบเนื่องมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์หลังโปแลนด์ยิงโดรนรัสเซียตก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่โดรนรัสเซียบินล้ำเข้าไปในน่านฟ้าโปแลนด์สร้างความกังวลอย่างยิ่ง และอย่างน้อยที่สุดจะช่วยสนับสนุนความพยายามของผู้กำหนดนโยบายในการเร่งเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม
กลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นราว 4% ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ โดยพลิกฟื้นหลังจากที่อ่อนแรงในช่วงปลายเดือนส.ค.
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 1% ตามแรงหนุนจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่แข็งแกร่งขึ้นจากความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
ข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ด้านธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาดเมื่อวันพฤหัสบดี แต่แนวโน้มเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อได้ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม
อีกประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้คือความวุ่นวายทางการเมืองในฝรั่งเศส หลังการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ในรอบไม่ถึง 2 ปี เนื่องจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่สามารถรวมเสียงในสภาเพื่อสนับสนุนแผนใช้จ่ายแบบขาดดุลงบประมาณได้