รัฐบาลสหรัฐได้เริ่มปิดหน่วยงานราชการบางส่วนเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจำนวนมากถึง 800,00 คนต้องถูกพักงานและมีการปิดอุทยานแห่งชาติและยุติการให้บริการบางส่วน หลังสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านทางตันด้านงบประมาณ เนื่องจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังมีความเห็นขัดแย้งกันในประเด็นการผูกเงื่อนไขในการชะลอการบังคับใช้กฎหมาย Affordable Care Act ออกไปเป็นเวลา 1 ปี เพื่อแลกกับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวแก่รัฐบาล โดยกฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายประกันสุขภาพที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้การสนับสนุนจนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “โอบามาแคร์"
ขณะที่ภาวะชะงักงันด้านงบประมาณของสหรัฐยังคงยืดเยื้อต่อไปนั้น นักลงทุนต่างมีความวิตกมากขึ้นว่าจะมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในเดือนนี้หรือไม่ โดยประเด็นเพดานหนี้นับว่ามีความสำคัญมากกว่าการชัตดาวน์ เนื่องจากอาจจะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของสหรัฐ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ไม่อาจประเมินได้
อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส รีเสิร์ชเชื่อว่าประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐไม่น่าจะขัดขวางการซื้อหุ้นของนักลงทุน แต่พวกเขาน่าจะใช้ภาวะอ่อนแรงของตลาดหุ้นเพื่อเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
เครดิต สวิสระบุว่า มีโอกาสต่ำที่ความขัดแย้งจะกินเวลานาน เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของสหรัฐแสดงให้เห็นว่ารีพับลิกันกำลังถูกตำหนิอย่างหนักสำหรับการชัตดาวน์ ขณะที่เดโมแครตได้เสียงข้างมากเพิ่มขึ้นในวุฒิสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรคมีความชอบธรรมทางการเมือง
นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจก็ดีกว่าช่วงที่เกิดความขัดแย้งด้านงบประมาณในเดือนส.ค.2554 อย่างมาก เนื่องจากฐานะทางการคลังของสหรัฐมีความแข็งแกร่งกว่า โดยในขณะนี้สหรัฐมียอดขาดดุลที่ 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเทียบกับ 10% ในช่วง 2 ปีก่อน ขณะที่การขยายตัวของจีดีพีทั่วโลกก็กำลังปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ด้านเจพี มอร์แกน รีเสิร์ชเปิดเผยว่า ตลาดหุ้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงสิ้นเดือนก.ย.แทบจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ไม่ได้มีมูลค่าเมื่อเทียบกับมูลค่าในอดีต เจพีมอร์แกนจึงแนะกลยุทธ์ในการเข้าซื้ออย่างระมัดระวังสำหรับภูมิภาคดังกล่าว
ขณะที่อินโดนีเซียปรับตัวย่ำแย่อย่างมากในไตรมาสก่อนหน้า เจพี มอร์แกนระบุว่าหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมกำลังเริ่มมีการปรับตัวขาขึ้นในด้านผลกำไรต่อหุ้นในปีงบการเงิน 2556 ซึ่งอาจจะปรับตัวน่าพอใจ ท่ามกลางปัญหาด้านงบประมาณของสหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของมาเลเซียก็มีแนวโน้มจะปรับตัวขาขึ้นในลักษณะเดียวกัน
แม้แต่หุ้นกลุ่มการเงินในภูมิภาค ซึ่งถูกเทขายอย่างหนักในไตรมาสที่แล้ว อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอมาตรการกระตุ้นด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐนั้น ก็เริ่มเห็นแนวโน้มที่ผลประกอบการในเชิงลบจะพลิกฟื้นขึ้น
ทั้งนี้ เจพี มอร์แกนระบุว่า หุ้นกลุ่มการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นมาเลเซีย มีการปรับตัวโดดเด่นกว่าดัชนีหุ้นของแต่ละประเทศโดยทั่วไปในช่วงเดือนก.ย. นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินของไทย และมีแนวโน้มจะยังคงปรับตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า