ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาส 2/2568 เติบโต 7.96% เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจาก 6.93% ในไตรมาสแรก ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ของเวียดนามเปิดเผยในวันนี้ (16 ก.ค.) ว่า รัฐบาลตั้งเป้าให้อัตราการเติบโตของ GDP ปีนี้อยู่ที่ 8.3%-8.5% ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโต 7.09% ในปีที่แล้ว โดยรัฐบาลมองว่าเป้าหมายดังกล่าวจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการบรรลุอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักในช่วงปี 2569-2573 ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติของเวียดนามได้อนุมัติเกณฑ์การเติบโตอย่างน้อย 8% สำหรับปีนี้แล้ว
เวียดนามวางแผนปรับปรุงกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม อาทิ การบริโภคภายในประเทศ การส่งออก และการลงทุน ควบคู่กับการเร่งพัฒนาปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ เช่น การเติบโตสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม นายกฯ เวียดนามยอมรับว่า เวียดนามยังคงเผชิญความท้าทายจากความขัดแย้ง การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางการค้า การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ถ้อยแถลงของผู้นำเวียดนามมีขึ้นไม่นานหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าข้อตกลงทางการค้ากับเวียดนามใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยเมื่อต้นเดือนนี้ ทรัมป์ระบุว่าสินค้าจากเวียดนามจะถูกเก็บภาษีนำเข้า 20% และสินค้าที่ส่งต่อจากประเทศที่สามผ่านเวียดนามจะถูกเก็บภาษี 40% ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 46% ที่ทรัมป์เคยขู่ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา