บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป (Toyota Motor Corp.) เปิดเผยในวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า การผลิตรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 926,987 คัน ทำสถิติการผลิตในเดือนเดียวที่สูงที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดขายรถยนต์ไฮบริดในอเมริกาเหนือ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า แม้ว่าโตโยต้าซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ของปริมาณ จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น แต่ยอดขายทั่วโลกของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.1% แตะระดับ 922,087 คันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ของทุก ๆ ปี และทำสถิติสูงกว่าระดับของปีก่อนหน้าเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน
ด้านการผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 2.2% แตะระดับ 600,155 คัน ซึ่งสูงกว่าระดับของปีก่อนหน้าเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ส่วนการผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 26.4% แตะระดับ 137,262 คัน โดยการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์หลักของโตโยต้านั้น ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่เคยถูกกระทบจากการระงับการผลิต อันเนื่องมาจากการเรียกคืนรถยนต์บางรุ่นเมื่อปีที่แล้ว ตลอดจนได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่แข็งแกร่ง
ในทางตรงกันข้าม การผลิตในจีนลดลง 6.4% มาอยู่ที่ระดับ 132,834 คัน เนื่องจากมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลจีนได้สิ้นสุดลง โดยจีนถือเป็นตลาดหลักในเอเชียของโตโยต้า
สำหรับการผลิตภายในญี่ปุ่นของโตโยต้า เพิ่มขึ้น 6.8% แตะระดับ 326,832 คัน ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัว หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรับรองผลการทดสอบรถยนต์เมื่อปี 2567
ส่วนยอดขายในต่างประเทศของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 3.3% แตะระดับ 784,581 คันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ของทุก ๆ ปี
เมื่อแยกเป็นรายประเทศพบว่า ยอดขายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 11.8% แตะที่ 207,910 คัน ขณะที่ยอดขายในอินเดียพุ่งขึ้น 37.1% สู่ระดับ 41,664 คัน โดยได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลออกมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในจีนลดลง 6.6% มาอยู่ที่ระดับ 160,886 คัน และยอดขายในญี่ปุ่นลดลง 4.2% สู่ระดับ 137,506 คัน