ชาวอเมริกันหลายพันคนรวมตัวประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 6 ก.ย.) เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยุติการส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติออกลาดตระเวนตามถนน
ผู้ชุมนุมตะโกนประณามทรัมป์ พร้อมถือป้ายข้อความ เช่น "ทรัมป์ต้องลาออกทันที", "วอชิงตัน ดี.ซี. ต้องเป็นอิสระ" และ "ต่อต้านเผด็จการ"
เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ส่งกำลังทหารเข้าควบคุมกรุงวอชิงตันอ้างเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ฟื้นฟูกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชน พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) ออกลาดตระเวนตามถนน แต่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า อัตราอาชญากรรมรุนแรงของกรุงวอชิงตันในปี 2567 แตะในระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศเมื่อวันอังคาร (2 ก.ย.) ว่า เขาจะส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้าปราบปรามอาชญากรรมในเมืองชิคาโกเช่นกัน ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนในการใช้กำลังทหารเข้าควบคุมเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศ และคาดว่าจะจุดชนวนการต่อสู้ทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างดุเดือด
เจ.บี. พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองชิคาโก กล่าวหลังการแถลงของทรัมป์ว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังเตรียมการส่งกองกำลังทหาร พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ ICE และยานพาหนะทางทหารเข้าประจำการในพื้นที่ของรัฐบาลกลาง
ทั้งนี้ ทรัมป์ขู่มาตลอดว่าจะขยายปฏิบัติการปราบปรามของรัฐบาลกลางไปยังเมืองต่าง ๆ ที่บริหารโดยพรรคเดโมแครต โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม แม้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะยืนยันว่าสถิติการฆาตกรรม ความรุนแรงจากอาวุธปืน และการลักทรัพย์ล้วนลดลง