ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เสร็จสิ้นภารกิจเยือนอังกฤษครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) พร้อมยอมรับว่ามีความเห็นไม่ตรงกับเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เกี่ยวกับแผนการที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์
ทรัมป์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับสตาร์เมอร์ว่า ผมไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เรามีความเห็นต่างกัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนก.ค. สตาร์เมอร์เคยประกาศว่า อังกฤษจะเดินหน้าให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ภายในเดือนก.ย. หากอิสราเอลไม่ดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า การประกาศดังกล่าวคาดว่าอาจมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังทรัมป์เสร็จสิ้นภารกิจเยือนอังกฤษ
อย่างไรก็ดี สตาร์เมอร์ยืนยันระหว่างการแถลงข่าวร่วมว่า ช่วงเวลาที่เลือกประกาศนั้นไม่เกี่ยวข้องกับกำหนดการเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ระหว่างการเยือน อังกฤษและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่ชื่อว่า "Tech Prosperity Deal" มูลค่า 3.1 หมื่นล้านปอนด์ (4.2 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อเสริมศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI), ควอนตัมคอมพิวติ้ง และพลังงานนิวเคลียร์
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ไมโครซอฟท์จะลงทุน 30,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และ AI รวมถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในเมืองลอว์ตัน ขณะที่กูเกิลเตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่เมืองวอลแทมครอส ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน และยังเดินหน้าสนับสนุนงานวิจัย AI ผ่านดีปมายด์ (DeepMind)
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ณ พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อวันพุธ (17 ก.ย.) ท่ามกลางการรวมตัวของผู้ประท้วงด้านนอกพระราชวัง
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมหลายพันคนได้เดินขบวนในย่านใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ เพื่อคัดค้านการมาเยือนของทรัมป์ โดยมีนโยบายของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลและสงครามกาซาเป็นประเด็นหลักของการประท้วง