"ทรัมป์" เรียกร้องยูเครนยอมรับแผนสันติภาพภายในวันขอบคุณพระเจ้า

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 22, 2025 01:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า เขาต้องการให้ยูเครนยอมรับข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่ภายในวันขอบคุณพระเจ้า ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เส้นตายดังกล่าวเป็นเวลาที่เหมาะสม และเขาไม่มีแผนที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย

'ยูเครนอาจพ่ายแพ้ในไม่ช้า พวกเขากำลังสูญเสียดินแดน' ปธน.ทรัมป์กล่าว

ทั้งนี้ สหรัฐได้แจ้งกำหนดเส้นตายในวันพฤหัสบดีหน้าต่อรัฐบาลยูเครน แต่เจ้าหน้าที่เน้นว่า นี่เป็น "เป้าหมาย" มากกว่าเส้นตายที่ตายตัว

โดยยอมรับว่า การเจรจายุติสงครามนั้นมีความซับซ้อน และต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ในการเจรจาต่อรอง

'นี่คือหนึ่งในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา ยูเครนอาจต้องเผชิญทางเลือกที่ยาก ไม่ว่าจะสูญเสียศักดิ์ศรี หรือเสี่ยงที่จะสูญเสียพันธมิตรสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข 28 ข้อที่ยากลำบาก หรือการเผชิญหน้ากับฤดูหนาวที่เลวร้าย' ปธน.เซเลนสกีกล่าวในคลิปวิดีโอความยาว 10 นาทีต่อประชาชนชาวยูเครน พร้อมกระตุ้นให้ประเทศเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ทางด้านทำเนียบเครมลินย้ำว่ายังไม่ได้เห็นรายละเอียดของแผนดังกล่าว แต่เรียกร้องให้ยูเครนทำการตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ

นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้จัดทำแผนสันติภาพเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และเชื่อว่าแผนดังกล่าวจะเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย

นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง และนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ทำการร่างแผนดังกล่าว พร้อมกับทำการหารือกับทั้งรัสเซียและยูเครน เพื่อทำความเข้าใจว่าประเทศทั้งสองจะยอมรับเงื่อนไขใดเพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน

ด้านทำเนียบประธานาธิบดียูเครนระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะเจรจากับปธน.ทรัมป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสทางการทูตและประเด็นสำคัญที่จำเป็นต่อการบรรลุสันติภาพ

ทั้งนี้ ข้อเสนอทั้ง 28 ข้อสำหรับแผนสันติภาพยูเครนของปธน.ทรัมป์ ได้แก่:-

1) ยูเครนจะได้รับการรับรองอธิปไตย

2) จะมีการทำข้อตกลงไม่รุกรานอย่างครอบคลุม ระหว่างรัสเซีย ยูเครน และยุโรป โดยให้ถือว่าความคลุมเครือของช่วง 30 ปีที่ผ่านมาได้รับการแก้ไขแล้ว

3) รัสเซียจะไม่รุกรานประเทศเพื่อนบ้าน และนาโตจะไม่ทำการขยายองค์กร

4) สหรัฐจะเป็นคนกลางจัดให้มีการเจรจาระหว่างรัสเซียกับนาโตเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคง ลดความตึงเครียด และสร้างเงื่อนไขเพื่อรับประกันความมั่นคงทั่วโลก และเพิ่มโอกาสด้านความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต

5) ยูเครนจะได้รับหลักประกันความมั่นคงที่เชื่อถือได้

6) กองทัพยูเครนจะถูกจำกัดจำนวนกำลังพลไว้ที่ 600,000 นาย

7) ยูเครนต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าจะไม่เข้าร่วมนาโต และนาโตจะต้องเพิ่มข้อกำหนดในธรรมนูญว่าจะไม่เปิดรับยูเครนในอนาคต

8) นาโตจะไม่ส่งกองกำลังเข้าประจำการในยูเครน

9) ยุโรปจะประจำการเครื่องบินรบในโปแลนด์

10) หลักประกันจากสหรัฐ

-สหรัฐจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับหลักประกันนี้

-หากยูเครนรุกรานรัสเซีย ยูเครนจะสูญเสียหลักประกัน

-หากรัสเซียรุกรานยูเครน รัสเซียจะเผชิญกับการตอบโต้ทางทหารร่วมกันอย่างเด็ดขาด และมาตรการคว่ำบาตรทั่วโลกทั้งหมดจะถูกนำกลับมาใช้ รวมทั้งการรับรองดินแดนใหม่และผลประโยชน์อื่น ๆ ในข้อตกลงนี้จะถูกยกเลิก

-หากยูเครนยิงขีปนาวุธเข้าใส่มอสโกหรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโดยไม่มีเหตุอันควร หลักประกันจะถือเป็นโมฆะ

11) ยูเครนสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดยุโรปในระยะสั้นระหว่างที่มีการพิจารณาเรื่องนี้

12) โครงการระดับโลกเพื่อฟื้นฟูยูเครน ได้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ:-

-การจัดตั้งกองทุนพัฒนายูเครนเพื่อการลงทุนในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็ว เช่น เทคโนโลยี ดาต้าเซ็นเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

-สหรัฐจะร่วมมือกับยูเครนในการสร้างใหม่ พัฒนา ปรับปรุงให้ทันสมัย และบริหารโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซของยูเครน ซึ่งรวมถึงท่อส่งและคลังเก็บก๊าซ

-การร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากสงครามเพื่อการก่อสร้างใหม่และปรับปรุงเมืองและที่อยู่อาศัย

-การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

-การสกัดแร่และทรัพยากรธรรมชาติ

-ธนาคารโลกจะจัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อเร่งกระบวนการเหล่านี้

13) รัสเซียจะถูกนำกลับเข้าสู่เศรษฐกิจโลก

-จะมีการหารือเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร โดยจะมีการทำข้อตกลงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นรายกรณี

-สหรัฐจะทำข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระยะยาวกับรัสเซียในด้านพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน AI ดาต้าเซ็นเตอร์ โครงการสกัดโลหะหายากในอาร์กติก และโอกาสทางธุรกิจอื่นที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

-รัสเซียจะได้รับเชิญให้กลับเข้าร่วม G8

14) การใช้ทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัด

-เงินจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์จากทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดจะถูกลงทุนในการฟื้นฟูและลงทุนในยูเครนภายใต้การนำของสหรัฐ

-สหรัฐจะได้รับ 50% ของผลกำไรจากโครงการนี้

-ยุโรปจะเพิ่มเงินอีก 100,000 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนสำหรับฟื้นฟูยูเครน และทรัพย์สินรัสเซียในยุโรปจะถูกปลดจากการอายัด

-ส่วนที่เหลือของทรัพย์สินรัสเซียที่ถูกอายัดจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนร่วมสหรัฐ-รัสเซียเพื่อทำโครงการเฉพาะด้าน โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และผลประโยชน์ร่วมกัน และลดโอกาสกลับไปสู่ความขัดแย้ง

15) ตั้งคณะทำงานร่วมสหรัฐ-รัสเซียด้านความมั่นคง เพื่อติดตามและรับรองการปฏิบัติตามข้อตกลงนี้

16) รัสเซียจะออกกฎหมายรับรองนโยบายไม่รุกรานยุโรปและยูเครน

17) สหรัฐและรัสเซียจะตกลงขยายอายุสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งสนธิสัญญา START I

18) ยูเครนจะเป็นรัฐปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ตามสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์

19) โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียจะเดินหน้าภายใต้การกำกับดูแลของ IAEA และไฟฟ้าที่ผลิตได้จะแบ่งเท่า ๆ กันระหว่างรัสเซียและยูเครน (50:50)

20) ทั้งสองประเทศจะดำเนินโครงการการศึกษาในโรงเรียนและสังคมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและการยอมรับในวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมทั้งขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและอคติทุกรูปแบบ

-ยูเครนจะบังคับใช้กฎของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการยอมรับทางศาสนาและการคุ้มครองชนกลุ่มน้อยด้านภาษา

-ทั้งสองประเทศจะยกเลิกมาตรการเลือกปฏิบัติทั้งหมดและรับรองสิทธิของสื่อและการศึกษาทั้งภาษายูเครนและรัสเซีย

-ต้องปฏิเสธและห้ามอุดมการณ์นาซีทุกรูปแบบ

21) ดินแดน

-ไครเมีย ลูฮันสค์ และโดเนตสค์ จะได้รับการรับรองโดยพฤตินัยว่าเป็นของรัสเซีย รวมทั้งจากสหรัฐ

-เคอร์ซอนและซาโปริซเซีย จะถูก "แช่แข็ง" ตามเส้นแนวปะทะ ซึ่งถือเป็นการยอมรับสถานะในทางปฏิบัติ

-รัสเซียจะยกเลิกการควบคุมดินแดนอื่นที่ตกลงกันไว้นอกเหนือจาก 5 ภูมิภาค

-ยูเครนจะถอนทหารจากภูมิภาคโดเนตสค์ที่ควบคุมอยู่ และพื้นที่ดังกล่าวจะถูกจัดเป็นเขตกันชนปลอดทหาร ซึ่งนานาชาติจะให้การรับรองว่าเป็นดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย โดยรัสเซียจะไม่ส่งทหารเข้าสู่เขตนี้

22) หลังตกลงเรื่องดินแดนแล้ว ทั้งสองฝ่ายต้องไม่เปลี่ยนแปลงข้อตกลงนี้ด้วยการใช้กำลังทหาร และหลักประกันความปลอดภัยจะไม่มีผลหากผิดสัญญานี้

23) รัสเซียจะไม่ขัดขวางยูเครนในการใช้แม่น้ำนีเปอร์เพื่อกิจการพาณิชย์ และจะมีการทำข้อตกลงเรื่องการขนส่งธัญพืชผ่านทะเลดำอย่างเสรี

24) จะมีการตั้งคณะกรรมการด้านมนุษยธรรมเพื่อแก้ไขประเด็นต่าง ๆ

-แลกเปลี่ยนนักโทษและร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดของแต่ละฝ่ายโดยไม่มีข้อยกเว้น

-ส่งคืนผู้ถูกควบคุมตัวและตัวประกันฝ่ายพลเรือนทั้งหมด รวมทั้งเด็ก

-ดำเนินโครงการให้ครอบครัวได้กลับมาพบกันอีก

-จัดมาตรการช่วยเหลือเหยื่อความขัดแย้ง

25) ยูเครนจะจัดการเลือกตั้งภายใน 100 วัน

26) ทุกฝ่ายในความขัดแย้งจะได้รับการนิรโทษกรรมอย่างเต็มรูปแบบ และตกลงจะไม่เรียกร้องหรือทำการร้องเรียนใด ๆ ในอนาคต

27) ข้อตกลงนี้จะมีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยมี "สภาสันติภาพ" นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ ทรัมป์ เป็นผู้ติดตามและค้ำประกันการปฏิบัติ พร้อมบทลงโทษในกรณีละเมิด

28) เมื่อทุกฝ่ายตกลงตามบันทึกนี้ การหยุดยิงจะมีผลทันที หลังจากทั้งสองฝ่ายถอนกำลังกลับไปสู่จุดที่กำหนด เพื่อเริ่มกระบวนการตามข้อตกลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ