ราคาบ้านใน UK เดือนต.ค. พุ่งขึ้นผิดคาด แม้ผู้ซื้อกังวลรัฐบาลขึ้นภาษีในประกาศงบฯใหม่

ข่าวต่างประเทศ Friday October 31, 2025 16:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาบ้านในสหราชอาณาจักร (UK) ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนต.ค. สวนทางกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีความกังวลก่อนการประกาศงบประมาณของรัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ ที่คาดว่าจะมีการขึ้นภาษีก็ตาม

เนชั่นไวด์ (Nationwide) ซึ่งเป็นผู้ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายใหญ่ เปิดเผยในวันนี้ (31 ต.ค.) ว่า ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. ถือว่าปรับตัวขึ้น 2 เดือนติดต่อกันครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

เมื่อเทียบรายปี ราคาบ้านเดือนต.ค. สูงขึ้น 2.4% ซึ่งเร่งตัวขึ้นจากอัตราการเติบโต 2.2% ในเดือนก.ย. ทำให้ราคาบ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 272,226 ปอนด์ในเดือนต.ค.

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดว่าราคาบ้านจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบรายเดือน และจะเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเนชั่นไวด์กล่าวว่า "ท่ามกลางความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ซบเซาและสัญญาณการชะลอตัวของตลาดแรงงาน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิดถึงสองเท่า และราคาบ้านก็อยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์"

รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดบ้านกำลังกลับมาทรงตัวได้ หลังจากยอดซื้อขายเคยตกไปเพราะการขึ้นภาษีเมื่อต้นปี ปัจจัยที่ช่วยคือการที่รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้นแซงเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลง ทำให้คนยังกล้าซื้อบ้าน แม้จะมีความกังวลว่ารมว.คลังอาจจะขึ้นภาษีในงบประมาณที่จะประกาศในวันที่ 26 พ.ย. ก็ตาม

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเนชั่นไวด์กล่าวเสริมถึงแนวโน้มในอนาคตว่า ความสามารถในการซื้อบ้านมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย หากการเติบโตของรายได้ยังคงสูงกว่าการเติบโตของราคาบ้านตามที่เนชั่นไวด์คาดการณ์ไว้

"ต้นทุนการกู้ยืมก็น่าจะลดลงอีกเล็กน้อย หากธนาคารกลางอังกฤษลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Bank Rate) ลงอีกในไตรมาสข้างหน้า" เขากล่าว "สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนความต้องการของผู้ซื้อ โดยเฉพาะเมื่อสถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนยังแข็งแกร่ง อันที่จริง อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบสองทศวรรษ"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ