จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออสเตรเลีย กล่าวในวันนี้ (18 ก.ค.) ว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่มีสาเหตุมาจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่ทำให้การว่างงานในออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้น
ชาลเมอร์สกล่าวกับสถานีวิทยุ ABC ว่า ความผันผวน ความคาดเดาไม่ได้ และความไม่แน่นอน ที่มีสาเหตุมาจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ได้กำหนดนิยามและกลายเป็นลักษณะหนึ่งของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน และออสเตรเลียไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเรื่องนี้
เขากล่าวว่า รัฐบาลกลางได้รับฟังความเห็นจากบรรดาผู้นำธุรกิจและนักเศรษฐศาสตร์ว่า นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในประเทศว่าจะจ้างพนักงานดีหรือไม่
"ผมคิดว่าบางคนมองความไม่แน่นอนและความคาดเดาไม่ได้เป็นเรื่องปกติใหม่ไปแล้ว นั่นทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด" ชาลเมอร์สกล่าวข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ระบุว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 4.1% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.3% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564
ชาลเมอร์สกล่าวว่า อัตราว่างงานที่สูงขึ้นไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ โดยรัฐบาลคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะปรับตัวขึ้นอีก แต่จะยังคงอยู่ต่ำกว่า 5%
ทั้งนี้ ชาลเมอร์ส ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนแอฟริกาใต้เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ในเมืองเดอร์บัน กล่าวว่า ในการหารือทวิภาคีและการประชุมขนาดใหญ่ต่าง ๆ มีความเห็นตรงกันอย่างแน่นอนว่า การเก็บภาษีของสหรัฐฯ นั้นไม่สมเหตุสมผล ไม่จำเป็น และเป็นการทำร้ายตัวเองทางเศรษฐกิจ