การประชุมหารือทางการเมืองไทย-จอร์เจีย ครั้งที่ ๒

ข่าวต่างประเทศ Monday February 27, 2023 16:15 —กระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมหารือทางการเมืองไทย-จอร์เจีย ครั้งที่ ๒ ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายอะเล็กซานเดอร์ ควีเซียชวีลี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์เจีย เป็นประธานร่วม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทย-จอร์เจียและความเข้าใจร่วมกันในประเด็นสำคัญของภูมิภาคและระหว่างประเทศ

ที่ประชุมได้หารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จอร์เจีย ได้แก่ การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง ความร่วมมือระหว่างรัฐสภา ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมการค้าและการลงทุนในสาขาต่าง ๆ อาทิ เกษตรกรรม อาหารแปรรูป และการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน ตลอดจนความร่วมมือด้านวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี และแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่ออำนวยความสะดวกด้านกงสุลสำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์สำคัญในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ตลอดจนการให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันในเวทีสหประชาชาติ โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้ใช้โอกาสนี้ขอรับการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 - Phuket ของไทย

ภายหลังการประชุม ประธานร่วมของทั้งสองประเทศ ได้เป็นสักขีพยานพิธีลงนามความตกลง ๒ ฉบับ ได้แก่ (๑) บันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันการต่างประเทศเทวะวงศ์วโรปการกับสถาบันฝึกอบรมและวิจัยทางการทูต Levan Mikeladze ของกระทรวงการต่างประเทศจอร์เจียและ (๒) บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับหอการค้าและอุตสาหกรรมจอร์เจีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือเชิงวิชาการและด้านการค้าระหว่างกันต่อไปในอนาคต

ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจอร์เจียและคณะ

อนึ่ง ไทยและจอร์เจียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๓๕ และครบรอบ ๓๐ ปี เมื่อปี ๒๕๖๕ กรอบการประชุมดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญสำหรับการประชุมหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-จอร์เจีย ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๖๐ เพื่อติดตามและขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยได้จัดการประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๒ ณ กรุงทบิลีซี

ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ