หลักเกณฑ์การให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ของบ.เครดิตฟองซิเอร์

ข่าวกฏหมายและประกาศ Thursday December 4, 1980 17:53 —ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

                         ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการประกอบกิจการให้เช่าซื้อ
อสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
—————————————————
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 54 (4) วรรคสอง และมาตรา 55 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ. 2522 ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกประกาศเป็นข้อกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง ให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ถือปฏิบัติในการประกอบกิจการให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ในประกาศนี้
"เช่าซื้อ" หมายความว่า เช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
"ราคาเช่าซื้อ" หมายความว่า จำนวนเงินรวมทั้งสิ้นของเงินล่วงหน้าและเงินรายงวด ซึ่งผู้เช่าซื้อจะต้องชำระแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ตามระยะเวลาและเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อ เพื่อจะให้อสังหาริมทรัพย์ที่เช่าซื้อตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่าซื้อ
"เงินล่วงหน้า" หมายความว่า เงินที่ผู้เช่าซื้อชำระเมื่อทำสัญญาเช่าซื้อ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของราคาเงินสดต่างหากจากเงินรายงวด
"เงินรายงวด" หมายความว่า เงินที่ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระแก่ผู้ให้เช่าซื้อในแต่ละงวด ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นดอกผลเช่าซื้อ และราคาเงินสดประจำงวด ตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซื้อ
"ราคาเงินสด" หมายความว่า ราคาที่จะพึงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันได้ ในท้องตลาดด้วยเงินสด ณ วันทำสัญญาเช่าซื้อ
"ราคาเงินสดประจำงวด" หมายความว่า ส่วนของราคาเงินสดที่ผู้เช่าซื้อชำระแก่ผู้ให้เช่าซื้อในแต่ละงวด
"ราคาเงินสดสุทธิ" หมายความว่า ยอดสุทธิ ณ ขณะใดขณะหนึ่งของราคาเงินสดหักด้วยเงินล่วงหน้า และราคาเงินสดประจำงวดที่ได้ชำระแล้ว
"ดอกผลเช่าซื้อ" หมายความว่า เงินที่ผู้ให้เช่าซื้อรับจากผู้เช่าซื้อ เป็นการตอบแทนการให้เช่าซื้อ นอกจากราคาเงินสดประจำงวด หรือเงินล่วงหน้า โดยคำนวณจากราคาเงินสดสุทธิ ณ วันต้นงวด หรือเมื่อเริ่มระยะเวลาที่ใช้ในการคำนวณดอกผลเช่าซื้อนั้น
"อัตราดอกผลเช่าซื้อ" หมายความว่า อัตราร้อยละต่อปีที่ผู้ให้เช่าซื้อใช้ในการคำนวณดอกผลเช่าซื้อ
ข้อ 2. ผู้ให้เช่าซื้อต้องทำสัญญาเช่าซื้อเป็นหนังสือ มีข้อความตรงกันอย่างน้อย 2 ฉบับ และต้องมอบให้ผู้เช่าซื้อเก็บไว้เป็นหลักฐาน 1 ฉบับ
ในกรณีที่สัญญาเช่าซื้อชำรุดหรือสูญหาย และผู้เช่าซื้อขอให้ผู้ให้เช่าซื้อถ่ายเอกสาร หรือจัดทำสำเนาสัญญาเช่าซื้อให้แก่ผู้เช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อต้องดำเนินการให้เป็นไปตามความประสงค์ ของผู้เช่าซื้อ โดยอาจเรียกค่าใช้จ่ายเอาจากผู้เช่าซื้อเท่าที่จำเป็น
ข้อ 3. ในสัญญาเช่าซื้อ นอกจากข้อความที่เป็นสาระและเงื่อนไขแห่งสัญญาที่พึงระบุตามปกติ แล้วให้ผู้ให้เช่าซื้อระบุข้อความต่อไปนี้ไว้ด้วย คือ
(1) ราคาเงินสด
(2) เงินล่วงหน้า
(3) อัตราดอกผลเช่าซื้อ
(4) เงินรายงวด จำนวนงวด และวิธีการชำระเงิน
(5) ค่าใช้จ่ายอื่นที่ผู้เช่าซื้อต้องจ่าย นอกจากเงินล่วงหน้าและเงินรายงวด อันได้แก่ เบี้ยประกัน กรมธรรม์ประกันภัย ค่าภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ที่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ตอบแทนจากการให้เช่าซื้อ
(6) เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่เช่าซื้อให้แก่ผู้เช่าซื้อ
(7) ข้อความที่ให้ถือประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการประกอบกิจการให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่าซื้อ
ข้อ 4. ผู้ให้เช่าซื้อจะคิดดอกผลเช่าซื้อในแต่ละงวดหรือสำหรับช่วงระยะเวลาเช่าซื้อใดเกินกว่าดอกผลเช่าซื้อ ที่พึงคำนวณได้ตามอัตราที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญา หรือจะเรียกค่าใช้จ่ายอื่นนอกจากข้อ 3 (5) ไม่ได้ เว้นแต่ค่าปรับเมื่อมีการผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวด หรือค่าชดเชยเมื่อมีการขอชำระเงินรายงวดก่อนกำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกินกว่าที่ระบุให้เรียกได้ในข้อ 8 หรือข้อ 10 แล้วแต่กรณี
ข้อ 5. ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อสงวนสิทธิ ที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราดอกผลเช่าซื้อ โดยยระบุไว้เป็นเงื่อนไขของสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 2 เดือน ก่อนการเปลี่ยนแปลง อัตราดอกผลเช่าซื้อ ทั้งนี้ เว้นแต่ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์ และผู้เช่าซื้อได้ยินยอมแล้ว
ข้อ 6. ทุกครั้งที่ผู้ให้เช่าซื้อได้รับชำระเงินจากผู้เช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องออกหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อผู้ให้เช่าซื้อหรือผู้ได้รับมอบอำนาจให้แก่ผู้เช่าซื้อ และหลักฐานเป็นหนังสือดังกล่าวอย่างน้อยจะต้องระบุจำนวนเงิน และประเภทของเงินที่ชำระ
ข้อ 7. ผู้ให้เช่าซื้อต้องมีบัญชีผู้เช่าซื้อเป็นรายบุคคล และต้องจัดให้มีการบันทึกบัญชีเพื่อแสดงรายการอย่างน้อยดังนี้
(1) ราคาเงินสด
(2) การชำระเงินล่วงหน้า
(3) การชำระดอกผลเช่าซื้อ ราคาเงินสดประจำงวด และเงินรายงวดในแต่ละงวด
(4) ราคาเงินสดสุทธิที่คงเหลือ
(5) การชำระค่าใช้จ่ายอื่นตามข้อ 3(5) ค่าปรับตามข้อ 8 หรือค่าชดเชยตามข้อ 10
ข้อ 8. ในกรณีผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดในงวดใดงวดหนึ่ง ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกค่าปรับจากผู้เช่าซื้อก็ได้ แต่ค่าปรับดังกล่าวเมื่อคิดเป็นอัตราส่วนกับยอดเงิน และระยะเวลาที่ผิดนัดแล้ว ต้องไม่เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม ที่ผู้ให้เช่าซื้อพึงเรียกได้ตามกฎหมาย
ข้อ 9. เมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดสองงวดติด ๆ กัน หรือเมื่อผู้เช่าซื้อกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ ถ้าผู้ให้เช่าซื้อจะถือเป็นเหตุบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้งการบอกเลิกสัญญาและเหตุผลเป็นหนังสือให้ผู้เช่าซื้อทราบก่อนไม่น้อยกว่า 30 วัน ในหนังสือบอกเลิกสัญญานั้นให้ระบุด้วยว่าหากผู้เช่าซื้อชำระเงินรายงวด หรือแก้ไขการผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญดังกล่าว แล้วแต่กรณี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญา สัญญาเช่าซื้อไม่ระงับไป
ในกรณีผิดนัดไม่ชำระเงินรายงวดสองงวดติด ๆ กัน เมื่อผู้เช่าซื้อชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ ผู้ให้เช่าซื้อภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาของผู้ให้เช่าซื้อ ให้การบอกเลิกสัญญานั้น เป็นอันระงับไป
ในกรณีกระทำผิดสัญญาในข้อที่เป็นส่วนสำคัญ หากผู้เช่าซื้อสามารถแก้ไขให้เป็นที่พอใจแก่ผู้ให้เช่าซื้อได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกเลิกสัญญาของผู้ให้เช่าซื้อ ให้การบอกเลิกสัญญานั้นเป็นอันระงับไป
ข้อ10. เมื่อผู้เช่าซื้อขอชำระราคาเงินสดประจำงวดก่อนกำหนด ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องไม่คิดดอกผลเช่าซื้อสำหรับส่วนของราคาเงินสดสุทธิที่ลดลงเนื่องจากการชำระราคาเงินสดประจำงวดดังกล่าวตามระยะเวลาที่ชำระก่อนกำหนดนั้นหากยังคงมีราคาเงินสดสุทธิเหลืออยู่ผู้ให้เช่าซื้อจะปรับปรุงวิธีการชำระเงินในส่วนที่เหลือต่อไปได้เมื่อผู้เช่าซื้อยินยอม
วิธีการ ดังกล่าว ในวรรคหนึ่ง ให้อนุโลมใช้บังคับแก่กรณี ที่ผู้เช่าซื้อขอชำระส่วนของราคาเงินสดสุทธิคงเหลือด้วย
ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อขอชำระราคาเงินสดประจำงวดตามวรรคหนึ่ง หรือส่วนของราคาเงินสดสุทธิตามวรรคสอง ผู้ให้เช่าซื้ออาจเรียกค่าชดเชยจากผู้เช่าซื้อได้ ค่าชดเชยดังกล่าวให้คิดได้ไม่เกินอัตราร้อยละ 1 ของราคาเงินสดประจำงวดหรือส่วนของราคาเงินสดสุทธิที่ผู้เช่าซื้อชำระ
ข้อ 11. ผู้ให้เช่าซื้อต้องยอมให้ผู้เช่าซื้อโอนสิทธิ และหน้าที่ตามสัญญาเช่าซื้อให้แก่บุคคลอื่นซึ่งมีคุณสมบัติ ที่จะเป็นผู้เช่าซื้อได้ตามหลักเกณฑ์ ที่ผู้ให้เช่าซื้อกำหนด ในการประกอบกิจการให้เช่าซื้อตามปกติ
ข้อ 12. ในระหว่างอายุสัญญาเช่าซื้อ เมื่อผู้เช่าซื้อขอทราบเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้
(1) ส่วนของราคาเช่าซื้อที่ได้ชำระแล้ว
(2) ส่วนของราคาเช่าซื้อที่ถึงกำหนดชำระแต่ยังมิได้ชำระ
(3) ส่วนของราคาเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
(4) ราคาเงินสดสุทธิที่ยังคงเหลืออยู่
ผู้ให้เช่าซื้อต้องจัดทำหนังสือแสดงรายการดังกล่าวให้ผู้เช่าซื้อได้ทราบโดยไม่ชักช้า
ข้อ13. เมื่อผู้เช่าซื้อได้ชำระราคาเช่าซื้อจนครบถ้วนตามสัญญา หรือได้ชำระราคาเงินสดสุทธิ รวมทั้งดอกผลเช่าซื้อคงค้างหรือเงินค่าชดเชยตามข้อ 10 (ถ้าหากมี) ครบถ้วนแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ให้แก่ผู้เช่าซื้อตามเงื่อนไขของสัญญาโดยพลัน
ข้อ 14. สัญญาเช่าซื้อที่ทำขึ้น ก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ หากผู้เช่าซื้อขอชำระราคาเช่าซื้อ ทั้งสิ้นก่อนเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อต้องลดราคาที่เช่าซื้อลง ดังนี้
(1) ในกรณีที่สัญญาเช่าซื้อ ระบุอัตราผลประโยชน์ตอบแทน ที่มีวิธีคำนวณเทียบได้กับการคำนวณอัตราดอกผลเช่าซื้อตามประกาศนี้ ให้ลดราคาเช่าซื้อที่ขอชำระดังกล่าวลงตามหลักเกณฑ์ในข้อ 10โดยอนุโลม
(2) ในกรณีอื่นนอกจาก (1) ให้ลดราคาเช่าซื้อที่ขอชำระลงจากเงินรายงวดแต่ละงวด ที่ขอชำระก่อนกำหนดนั้น ในอัตราดอกผลเช่าซื้อไม่น้อยกว่าร้อยละ 12 ต่อปี
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2523
นุกูล ประจวบเหมาะ
ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 97 ตอนที่ 187 วันที่ 4 ธันวาคม 2523)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ